เรื่อง กระแสไฟฟ้า
กระแสไฟฟ้า (I) เกิดขึ้นจากการไหลของอิเล็กตรอน ผ่านวัสดุชนิดหนึ่งนั่นคือการถ่ายโอน
ประจุไฟฟ้า อิเล็กตรอนจะเคลื่อนที่ถ้าอยู่ในสนามไฟฟ้า ซึ่งสร้างความต่างศักย์ไฟฟ้า ระหว่างสองบริเวณ
เพราะฉะนั้น ความต่างศักย์ไฟฟ้า จึงจำเป็นในการทำให้เกิดกระแสไฟฟวงจรไฟฟ้า เป็นวงจรปิดประกอบ
ด้วยแหล่งกำเนิดกระแสไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
แรงเคลื่อนไฟฟ้า (Electromotive force(e.m.f.)) หมายถึงความ ต่างศักย์ไฟฟ้าที่สร้างขึ้น
โดยเซลล์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตูให้เกิดกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิด
กระแสไฟฟ้าในวงจร แหล่งกำเนิดแรงเคลื่อนไฟฟ้ามี 2 ขั้วซึ่งใช้สำหรับต่อกับสายไฟ แรงเคลื่อนไฟฟ้า-
ย้อนกลับ เป้นแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ที่เป็นส่วนของวงจรนั้น โดยให้แรงเคลื่อนไฟฟ้าตรง
กันข้ามกับแหล่งกำเนิดแรงเคลื่อนไฟฟ้าหนักของวงจร
คูลอมบ์ (Coulomb) เป็นหน่วยของประจุไฟฟ้าในระบบ เอสไอ มีค่าเท่ากับกับประจุไฟฟ้่า
ซึ่งผ่านจุดใดในตัวนำ ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า 1 แอมแปร์ ไหลผ่านตัวนำนั้นใน 1 วินาที
กระแสตรง (Direct current(d.c.)) เป็นกระแสไฟฟ้าที่ไหลทิศทางเดียว โดยปกติแล้ว
กระแสไฟฟ้าจะไหลจากจุดที่มี ศักย์ไฟฟ้า สูงกว่าไปยังจุดที่มีศักย์ไฟฟ้าตำ่๋๋๋๋่่่่่่่่่กว่า แต่อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ไป
ในทิศทางตรงข้ามกับกระแสไฟฟ้า
แอมแปร์ (Ampere) (A) ในหน่วย เอสไอ นิยามกระแสไฟฟ้า 1 แอมแปร์คือ กระแสที่ไหล
ผ่านสายไฟ 2 เส้นยาวมากห่างกัน 1 เมตร และมีแรงกระทำกับสายไฟนี้ในสุญญากาศ สองคูนสิบยกกำลัง
ลบเจ็ดนิวตัน ต่อความยาว 1 เมตร เราสามารถวัดกระแสไฟฟ้าอย่างละเอียดได้โดยใช้ เครื่องชั่งกระแส ซึ่ง
เป็นการวัดแรงระหว่างขดลวด 2 ขด ที่มีกระแสไหลผ่าน เครื่องชั่งกระแสใช้สำหรับเทียบมาตรฐานแอมมิเตอร์
กระแสสลับ (Alternating current(a.c.)) หมายถึงกระแสไฟฟ้าที่ไหลกลับไปกลับมา เกิด
จากแรงเคลื่อนไฟฟ้าสลับ เมื่อเขียนกราฟของกระแสไฟฟ้ากับเวลาจะได้รูปคลื่นของกระแสไฟฟ้่า โดยทั่วไป
ค่ากระแสสลับและแรงเคลื่อนไฟฟ้าสลับเป็นค่ารากที่สองของค่าเฉลี่ยกำลังสอง